ผู้เขียน หัวข้อ: NC review จากนิตสารกรังด์ปรีซ์  (อ่าน 5166 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

admin

  • บุคคลทั่วไป
NC review จากนิตสารกรังด์ปรีซ์
« เมื่อ: กันยายน 04, 2009, 04:42:22 PM »
2006 All New MAZDA MX-5
"Jinba-Ittai" รถสปอร์ตที่ดี....ต้องมี..."ศูนย์กลางแห่งพลัง"

     มหัศจรรย์คันเดียวแห่ง "โลกรถสปอร์ต" เมื่อทีมงาน Zoom-Zoom มาสด้าแห่งฮิโรชิมา และ Kanzai Engineering ค้นพบ Concept MX-5 จากปรัชญา Jinba-Ittai แนวคิดพิชิตศึกที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกันของ "พลธนูบนหลังม้า" อันส่งให้ MX-5ใหม่ เจริญวัยสู่ปีที่ 16 แห่งการครองตำแหน่ง "รถสปอร์ตขายดีที่สุดตลอดกาล" ตำนานใหม่อันไม่มีวันสูญสิ้น...

The Sportcar of all time !





     16 ปีแล้วนะ...กับสถิติ...รถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลก นับแต่เมื่อ MX-5 ตระกูลดังจาก MAZDA ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกเมื่อ Feb 9, 1989 ณ มหกรรมยานยนต์ Chicaco Auto Show สหรัฐอเมริกา ด้วยนิกเนมที่คุ้นกันดีว่า "MIATA"

ศูนย์กลางแห่งพลัง


     แรงผลักดันอันสำคัญสู่การตัดสินใจด้วยกลยุทธ์ใหม่จากแนวคิดแห่งความคล่องตัว และเป็นหนึ่งเดียวกันในบทบาทเข้มของ The Man & Machine ที่มีแบ็กกราวด์จากความเร้าใจในการขับขี่ ที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์จากจิตวิญญาณดั้งเดิมของโรดสเตอร์พันธุ์แท้


  เริ่มจากแนวคิด MX-5 สามคันจาก 3 ทวีป อเมริกัน, เยอรมัน,ญี่ปุ่น และเชื่อไหมครับว่า "พิธีชงชา" ด้วยสุนทรียภาพอันงดงามในพื้นที่จำกัดแต่สง่างามแบบญี่ปุ่น คือแนวคิดง่าย ๆ ที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้น "รถสปอร์ตคันเล็กที่เปี่ยมด้วยความสง่างาม" จากนั้นพวกเขาเติมรสชาติแห่งความสนุกสนาน...ความสวยงาม และสัมผัสด้านอารมณ์ลงไป

     ด้วยโครงสร้างที่ Mr.Toshigi Hirai จากสถาบัน Kansei Engineering ผู้ชำนาญด้านสรีรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮิโรชิมา ผู้นำพิธีกรรมและแนวคิดทางปรัชญา Jinba-Ittai ที่เป็นหนึ่งเดียวกันระหว่าง "พลธนูบนหลังม้า" อันเป็นที่มาแห่งแนวคิดและการออกแบบ, การวางตำแหน่งชิ้นส่วนกลไกทางวิศวกรรม และการสนองตอบการขับขี่ที่บรรลุสู่ความสำราญใจให้มี "รูปธรรม" มากที่สุด
หั่นทิ้งทุกกรัม...จากส่วนเกิน ?

     ผลก็คือ MX-5 ใหม่กลายเป็นรถยนต์ที่มีความหมายมากกว่าความเป็นเพียงเครื่องจักร เริ่มต้นด้วยโครงสร้าง Uni-Body ใหม่ ที่แข็งแกร่ง, เบา และความจริงจังของกรรมวิธี "Gram Stratigy" ที่มุ่งเข้าจัดการต่อน้ำหนักทุกกรัมที่ไร้ประโยชน์ ที่ใช้ 6 ประเด็นหลัก ทั้งการขับขี่, การหยุดรถ, การเข้าโค้ง, เสียง, สัมผัส และรูปลักษณ์การออกแบบ เป็นกรอบการทำงานร่วม

  การรักษาน้ำหนักให้เบาที่สุดนี้ แม้ว่า MX-5 ใหม่ จะมีมิติขนาดที่อวบอิ่มกว่าเมื่อเทียบกับ Gen 1-2 ที่มีทรวดทรงแบบ Coke Bottle แต่ Gen 3 กลับรักษาไว้ซึ่ง Diet ด้วยน้ำหนักตัวเบาสุด ลดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง และการกระจายน้ำหนักระหว่างล้อหน้า-ล้อหลัง ในอัตราส่วน 50:50 เพื่อจำกัด Axis-Roll อย่างได้ผล ให้ความรู้สึกที่หนักแน่น และเฉียบคมกว่า เพื่อรักษาสัมพันธ์ระหว่าง "ม้า" และ "พลธนู" ทั้งยังคงไว้ซึ่งรสชาติ "ดิบ" ในการขับขี่ในบรรยากาศแห่งสายลมแสงแดด ที่แม้สปอร์ตที่เหนือชั้นกว่ายังต้องอิจฉา

     มิติขนาดของ All New MX-5 ถูก Scale-Up ขึ้นเล็กน้อย อาทิ ช่วงล้อ -Wheel Base ยาวกว่าเดิมราว 65 มม. ฐานล้อ - Track หน้า/หลัง กว้างขวางขึ้นอีก 75/55 มม. บอดี้ยาวขึ้นราว 20 มม. กว้างเพิ่มอีก 40 มม. และสูงขึ้นราว 20 มม. แต่ยังคงเจียมเนื้อเจียมตัวไว้ในรูปลักษณ์ "Roadster" ที่ยังกระชาก

 ทุกอย่างของ MX-5 ถูก Gram Strategy เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนจากเหล็กเป็นอะลูมินัม และการทำวิจัย Product Module Teamsที่ลดน้ำหนักทุกอย่างที่ขวางหน้า (แม้กระจังมองหลังยังลดให้เหลือเพียง 84 กรัมเท่านั้น) นอกจากนั้นของเหลวและสารหล่อลื่นทั้งมวลภายในรถยังถูกลดความจุลง พร้อมกับลดความยาวของทุกแนวเชื่อม และการเจียร์ขอบโลหะส่วนเกินทิ้งไปให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่มีผลต่อโครงสร้างความปลอดภัย ทั้งยังใช้เทคโนโลยีใหม่ในการเชื่อมผสานบอดี้ด้วยกรรมวิธีแบบใหม่ Friction Stir Spot Welding (มาสด้าได้จดสิทธิบัตรนี้ไว้ถึง 20 ฉบับด้วยกัน) เพื่อประกันความเบาและแข็งแกร่งระดับ MAZDA DNA จาก MX-8 เข้ามาร่วมแชร์กัน จากนั้นจึงค่อยวางลงบน "อะลูมินัมซับเฟรม" จากแชมป์แรลลี่ WRC พร้อมระบบช่วงล่างหน้า A-Arm Double Wishbones และหลัง Muti-Links (แบบ Rods-Linkage ดุจรถสปอร์ตเวิลด์คลาส) ที่ Attachment ให้คานเพลาท้ายอะลูมินัมคร่อมอยู่เหนือห้องเฟืองท้ายเพื่อลด Sprung weight (แรงสะเทือนจากด้านล่าง) และด้วยอานิสงส์ที่ช่วงล้อเหยียดออกไปนี้เอง ทำให้ MX-5 ใหม่ ได้โอกาสขยับ "ตำบลเครื่องยนต์" ให้ร่นถอยหลังไปได้อีกกว่า 135 มม. ต้องตามโหงวเฮ้ง "รถรบชั้นดี" ด้วย ศูนย์กลางโน้มถ่วง "CG" ที่เข้าสูตร High Performance ระดับสปอร์ตเครื่องหน้าขับหลังอย่าง BMW Z3-Z4 และ Z8 จากสมการ "Front -Mid Rear Drive" ทฤษฎีที่ว่าด้วย "รถสปอร์ตที่ดีต้องมีศูนย์กลางพลัง" ให้อยู่ระหว่างคาน Axled หน้า/หลัง เพื่อ "รวมศูนย์น้ำหนัก" ให้ตกลงตรงกลางระหว่าง 50:50 เพื่อสมดุลการขับเคลื่อน Dynamic Stability ที่ดีเยี่ยมกว่า Gen 1&2 ที่ทุบทิ้งทุกสถิติที่เคยขายดีที่สุดในโลกถึง 2 ครั้งติดต่อกันในปี 2000-2003 (Guinness Book World of records ได้บันทึกไว้ให้เป็น...ที่สุดของ 2 Seater Sportcar ด้วยยอดการขายทะลักทะลายกว่า 4.3 แสนคันด้วย Gen 1 ที่ยั่งยืนนานกว่า 8 ปี และ Gen 2ที่มาต่อยอดในปี 2000 อีก 2.9 แสนคัน ด้วยสถิติกว่า 730,000 คันตลอด 16ปี ที่ทำให้ MX-5 ทุบทุกสถิติ "The Sportcar of all time"ก่อนที่ MX-5 Gen 3 รุ่นปริวัตรใหม่ทั้งหมด จะปรากฏตัวขึ้นในงาน Geneva Auto Salon 2005 ศกที่ผ่านมา


อก...เอว...สะโพก : 35 -23 - 35






     ถ้าสรีระทรวดทรงองค์เอวยังคง "หมายสำคัญ" สำหรับรถสปอร์ตละก็ Zoom-Zoom Design Team ของ Mr. Yasushi Nakamuta จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง


MX-5 เติบโตขึ้น 8 ปี...สาวเต็มตัว...คันนี้เติบใหญ่ด้วยมิติขนาดที่สดใสตามตำรา "อวบอัด" กะทัดรัดคล่องตัว ด้วย Azimuth Design...สาวสะพรั่งสะโพกผายเจริญวัยเต็มที่ สุดเหวี่ยงกับ "วัยทีน" เต็มที่ด้วย Make-Up Artist และบราใหม่...พร้อมบิกินีที่จี๊ดจ๊าดท้าทายสไตล์ German Interior Design เจ้าของงานออกแบบภายในสุดเซ็กซี่ (ไม่หน่อมแน้ม)

     ด้วยตระหนักว่า...ไม่มีสิ่งใด "ยาก" ไปกว่าการต้อง "ชนะตนเอง" !? วิศวกรมาสด้าหาหนทางพัฒนาการ Uni-Body ใหม่ ด้วยวัสดุ Ultra High-Strength Steel ให้แข็งแกร่งกว่าเดิมอีก 22% ทั้งต้องสามารถต้าน Axis Roll แรงบิดทแยงด้วยระบบ Sub-Frame หน้า-หลัง เพื่อแก้นิสัยอันถาวรที่เคยติดตัว Top-less สปอร์ตคาร์แทบทุกคัน) ผลที่ได้แสนคุ้มกว่า 2 รุ่นแรก ด้วยกรอบความแข็งเพิ่มขึ้นอีก 47% อย่างเหลือเชื่อ ทั้งนี้ก็เพื่อให้รับกับพลังเครื่องยนต์สูงที่มาพร้อมกับแรงบิดใหม่ที่โหดกว่า และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าโครงสร้างยูนิ-บอดี้ทรวดทรงใหม่ที่พัฒนาให้ดูเจริญวัยขึ้นมานี้ กลับคุ้มค่าด้วย น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมเพียง 10กก. (1,095 กก.) เท่านั้นเอง ลงตัวเป๊ะตาม "สัดส่วนการควบคุมรูปร่างและน้ำหนัก" Power to weight ratio ของ MX-5 ยิ่งโดนใจนักทดสอบมือฉมังจากทั่วโลก ทั้งๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นล้วนผ่านสปอร์ตพลังช้างสารมาแล้วทั้งสิ้น !


MZR 2.0 ประติมากรรมลดน้ำหนัก




     คราวนี้คุณจะได้สุด ๆกับ 160 แรงม้าจากเครื่องยนต์ MZR 2.0 ประติมากรรมอะลูมินัม "ยกลูก" ใหม่ ที่ "รักดีหามจั่ว" แบกน้ำหนัก 1,100 กก.ด้วยอัตราส่วนเพียงแค่ 6.8 กก./แรงม้า...ซึ่งเมื่อรวมเอา ทั้ง"ฟิสิกส์และแมคคานิคส์" ทุกอย่างมาเปลี่ยนให้เป็นลีลาก็จะทำให้ MX-5 กลายเป็นรถสปอร์ตที่ "เร้าใจสุด" ที่ทั้ง Caterham 7 และ Lotus Elise เพียวสปอร์ตที่มีราคาสูงกว่า และแม้แต่ Z-8 ยังต้องอิจฉา เพียงเท่านี้ก็เรียก Sportcar beginer ให้หันมาสวามิภักดิได้ไม่ยาก
ปรากฏการณ์ High Milage! but Low Maintenance?
     
หมดสมัยไปนานแล้วละ...สำหรับปริศนาแห่งการเข้าถึงรถสปอร์ต...ที่ต้องมาพร้อมกับค่าดูแลรักษาแพงๆวิศวกรมาสด้าใช้ MX-5 เป็นกุญแจปุไขปริศนาเก่าแก่นี้มากว่า15 ปี นับแต่พวกมันได้ปรากฏขึ้นมาจนบัดนี้ พวกเขาฉีกตำรา "สปอร์ตยาก...ตายง่าย" ทิ้งไป และพยายามออกแบบให้ MX-5 เด่นด้วยองคาพยพ "พื้นฐานทางเครื่องจักร" ที่ต้องการแค่เพียงการดูแลรักษาง่าย ๆ ไม่ต่างจากรถซีดานขับหลังธรรมดา ๆ ด้วยงบฯการดูแลรักษาต่ำ และความทนทานต่อ Service Terms ด้วยระยะทางนับแสน ๆ กม.ช่วยให้การดูแลรักษาครั้งใหญ่ ๆ เนิ่นนานออกไป (ก็แค่มิให้คุณกับศูนย์บริการต้องห่างเหินกันแค่นั้นน่ะ !...)


Philomone of Roadster

     เมื่อย้อนกลับไปคุณต้องไม่ลืมว่า MX-5 เคยเป็น "การบ้าน" ข้อใหญ่ที่แม้ผู้ผลิตรายยักษ์อย่าง Benz และ BMW ยังต้องเร่งพัฒนา "สปอร์ตไร้หลังคา" ที่ซีลหลังคาได้ดีที่สุดจนเป็นมรรคผลแห่ง SLK และ Series 3 Convert จนถึง MINI ในปัจจุบัน
     
   แม้จนบัดนี้คุณสมบัติดั้งเดิมของ MX-5 ดังกล่าวก็ยังสร้างความพึงพอใจสูงสุดเมื่อต้องเทียบกับสปอร์ตเปิดประทุนที่มีเชิงชั้น และราคาที่เหนือกว่า ซึ่งนั่นจะเป็นเรื่องเดียวที่ Elise ของโลตัสก็ไม่กล้าเล่นด้วย!...แน่นอนครับ ทั้งคุณและสุดที่รักยังช่วยกันกางหรือเก็บ Soft Top โครงพับรูปตัว Z นี้ได้โดยง่าย ที่น่าชมเชยก็คือ คราวนี้มาสด้าออกแบบการพับเก็บให้เนียนตาและระนาบลงไปจนเกือบกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับแนวกระโปรงท้าย ไม่กระเดิดแบบใน Gen 1-2
   
    คุณรู้ตัวใช่ไหมว่า...คุณยินดีจ่ายให้กับ "โรดสเตอร์" เพราะในบางเวลา เก๋งหรือคูเป้มีหลังคาก็อาจจะเกะกะกวนใจขณะรัญจวนใจอยู่กับใครสักคน...ซึ่งนั่นละคือ "แรงปรารถนา" สำคัญของงานออกแบบอันซับซ้อนที่ง่ายดายของ Soft-Top ชิ้นใหม่

    แน่นอน MX-5 ใหม่ ยังคงเร้าใจ ด้วย "ฟิลโรโมน" แห่งความเสน่หาด้วยผืนหลังคา Soft Top & Drop Head สไตล์ Z-folder ที่จะกางและเก็บให้ติดมือคุณอย่างง่ายดาย ไม่ลำบากไปกว่าผ้าผืนสุดท้ายบนกายสาว ! ทั้งนี้ก็เพื่อให้ MX-5 คงดำเนินสู่ทุกบรรยากาศเร้าใจตามสไตล์สปอร์ต ด้วยการดีไซน์เก็บซ่อนส่วนเกินของกลไกกาง-เก็บหลังคาที่เคยยุ่งยากวุ่นวายแต่เก่าก่อน โดยคุณจะไม่กลไกลงตาใด ๆ ใน Gen 3 นี้แน่นอน

รอบไหลถึง Dangerous Line !
   




    จาก 1.6 และ 1.8 ดั้งเดิมที่ขับเคลื่อน MX-5 มากว่า 15 ปี คราวนี้มาสด้าพัฒนา "ห่วงโซ่" ด้วย MZR 2.0 ใหม่ เพื่อใช้เป็นอาวุธหลักด้วยระบบทางเดินไอดี Variable Air Intake และ Electronic Throttle ซี่งมาสด้าทุ่มสุดตัวเพื่อส่งให้ MZR "เกินตัว" ด้วยวิวัฒนาการระดับ Aluminum Block & Head และลูกสูบ Hi-comp ลูกโต พร้อมแรงอัดสูง และเพื่อความทนทานต่อการหมุนจี๋ อะลูมินัมบล็อกลูกนี้ยังสวมปลอกเหล็กหล่อ (Liner) ให้เครื่องจักรใหม่นี้ไหลลื่นและทนทานต่อการหมุนจี๋ที่ 6,700 rpm พร้อมแรงบิด 188 นิวตัน-เมตร (ราว 19.3 กก.-ม./5,000 rpm) ซึ่งด้วยตัวเลขง่ายๆ นี้คงพอจะทำให้คุณได้เข้าใจถึงสมรรถนะได้ไกลเกินกว่าคำว่า "ดีเยี่ยม" ที่เคยประดับอยู่กับ MX-5 2 รุ่นแรกที่เคยสร้างชื่อ ยิ่งเมื่อผ่านเกียร์ Activematic 6 Speed ที่ออกแบบให้รีดพลังขับเคลื่อนถึงขีดสุดท้าย แม้จะก้าวล่วงสู่ Dangerous line และดูเหมือนมาสด้าจะเป็นรายต้น ๆ ที่กล้า "แช่รอบจัด" ก่อนญี่ปุ่นรายใดๆ หลังจากได้ครองแชมป์ Le Mans ในปี 1990 เป็นต้นมา "ชาวมาสด้า" จึงกล้าออกแบบเครื่องยุคใหม่ๆ ให้แช่ใน "ขีดแดงอันตราย" ถ้าใจคุณยังเต็ม !?

From Sun to Shining Sea


     แดดอ่อนตอนเช้าตรู่ ดูไม่แปลกสำหรับการ Driving Top-Less สู่พัทยา และองศาความเข้มของแสงแดดในตอน 10.30 น. และหากไม่ห่วงเครื่องมือทดสอบสำคัญ Vericom 3000 VC ที่ไม่สู้แดดเท่าเราแล้วละก็ ทั้งวันหลังคาจะไม่มีวันได้เผยอขึ้นมาแน่นอนตลอดวันทดสอบ

     ตำแหน่งนั่งที่สูงกว่าเก่า เบาะนั่งที่เอาใจ "นักขับลูกผสม" ที่ไม่กล้าลงทุน "จม" ก้นลงใน Bucket Seat คงจะพอใจ เพราะตำแหน่งนั่งของ MX-5 ใหม่ จะให้อารมณ์แห่ง Sport Roadster น้อยไปนิด มันดูประนีประนอมกว่า ด้วยความสบายในแบบคูเป้ และนี่คือที่มาแห่งเหตุให้ส่วนสัดวัยทีนของมันดูอวบอัดขึ้นด้วยตำแหน่งนั่งที่สุขสบายกว่ารุ่นพี่ๆ

     แน่นอนรถสปอร์ตพันธุ์แท้แนวล่า ที่ยังต้องการ "นักขี่หลังเสือ" ที่คงฝีไม้ลายมือเช่นคุณเพื่อให้ได้มาซึ่ง Jinba-Ittai ปรัชญาแห่ง "พลธนูบนหลังม้า" ที่ส่งถ่ายจิตใจผ่านเนื้อหนังกายใจสู่ทุกการเคลื่อนไหวให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

     เริ่มต้นด้วยตำแหน่งนั่งที่ไม่จมลง ทำให้ผู้ขับขี่อวดบุคลิก และเพศได้ดีแม้คุณจะสูงสัก "เมตรครึ่ง" ก็ยังหล่อ และเซ็กซี่ได้ไม่ต่างจากหนุ่ม 180 ซม. (เป็นครั้งแรกช่างภาพทดสอบระดับ 160 ซม. ดูมั่นเมื่อนั่งเบาะหน้า !)

    เริ่มต้นการ "ปลุกตื่น" สู่พัทยาเซอร์กิตด้วย 140 กม./ชม. แต่นั่นยังไม่ใช่การรู้จักกัน มันยังคงเพียงแค่ทักทาย เก็บหมวกแก๊ปไว้ก่อน เว้นไว้แค่แว่นกันแดด พวงมาลัย และเรือนหน้าปัดดุดันเท่านั้นที่ต้องใช้มันเพื่อผสานสู่ "ศูนย์กลางแห่งพลัง" ของพลธนูบนหลังม้าที่ยังคงความ "ดิบ" ได้อย่างสะใจใน Mode s ที่ใช้การเปลี่ยนเกียร์ผ่าน Paddle ด้วยอาการรอบตึงสู่ทุกโค้ง พร้อมอาการ Oversteering อย่างเมามัน
   
     แต่สำหรับบางคนที่ไม่ชอบ "เผาผลาญ" รถและพลังงานส่วนเกินจากเมื่อคืนละก็ ระบบ Activematic 6 Speed ชุดนี้จะช่วยคุณคลายจากอาการ "หักดิบ" รอบจัดลงได้ และทุกอย่างในโค้งก็จะ Neutral เชื่องมือดุจลูกสาวไซร้ขน....

     ด้วยระบบเบรกของ MX-5 ที่เพียบพร้อมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ที่มาสด้าก็ได้หันไปทุ่มสุด ๆ ในการปรับปรุงบนพื้นฐานของ 4 Disc อะลูมินัมคาลิเปอร์ใหญ่แต่ลดน้ำหนักลง พร้อม Booster Power Brake ที่เพิ่มแรงกดจานขึ้นอีก 25% พร้อม EBD กระจายแรงเบรก ช่วยลดอาการวูบซ้าย-วูบขวา สกัดอาการ "Yaw moment of inertia" แรงเฉื่อยจาก CG ขณะเข้าโค้ง ด้วยการรองรับภาระกรรมการเบรกบนล้อแม็กมาตรฐานขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางที่เบ่งกล้ามถึง 205 /45-17

"ทุบสถิติ"ถุงลม 4ใบในโลกแห่ง "โรดสเตอร์"
   
     ท่ามกลางบรรยากาศพลิ้วไหวไปตามโลเกชั่น ที่คุณขับเคลื่อนอย่างสนุกสนานเบิกบานใจแล้ว ใน MX-5 ใหม่ มาสด้ายังไม่ลืมที่ต้องพัฒนา Safety Factors ให้สปอร์ตแพงคันอื่นๆ ต้องอิจฉา นั่นคือการเสริม 4 Airbags (!!!!) ที่ "ทุบสถิติ" โรดสเตอร์ประดามีในโลก และคงอีกนานชั่วกัลป์ชั่วกัลป์กว่าจะมี "โรดสเตอร์" อื่นใดจะใส่ใจด้านความปลอดภัยมากกว่านี้
   
     เพียงแค่ถุงลมนิรภัยคู่ซ้าย-ขวา มาตรฐานความปลอดภัยพื้นฐาน มาสด้ายังออกแบบถุงลมส่วนขยาย เพื่อป้องกันอันตรายจากด้านข้างไว้ภายในพนักพิงหลังทั้งซ้าย-ขวา ถึงพนักละ 2 ชุดเล็ก-ใหญ่ โดยถุงลมขนาดเล็กจะพองออกอย่างรวดเร็วกว่า พร้อมกันกับถุงลมใหญ่อีกใบจะพองในเวลาเดียวกัน เพื่อปกป้องทั้งสีข้างและศีรษะทั้งคุณและคนที่รัก
   
     วิศวกร NCAP (มาตรฐานความปลอดภัยนานาชาติ) ของมาสด้า เน้นการแบ่งถุงลมออกเป็นแต่ละคู่ เล็ก-ใหญ่ เพื่อจะเร่งระยะเวลาของการพองของถุงลมแต่ละใบให้ต่ำลง เมื่อเทียบกับม่านถุงลมขนาดใหญ่ด้านข้างในมาตรฐานรถนั่งอื่น







Jinba-Ittai
     
   ถนนสายนี้ยังยาวไกล MX-5 ยังคงต้องขับเคลื่อนไปท่ามกลาง "ศึกรถสปอร์ต"ที่คลาคล่ำไปด้วยสปอร์ตเกรดสูงและต่ำ แต่เมื่อคุณได้พิจารณาถึง "บรรทัดฐานใหม่" ที่วิศวกรมาสด้าได้พยายามค้นคว้าเพื่อ "อัดแน่น" ลงไปในมิติขนาดของ Compact sportcar พันธุ์แท้ "Roadster" ที่มีอาวุธหลักจากพลังเครื่องยนต์ที่เกินตัว และการบังคับควบคุมดุจคมมีด การบำรุงรักษาต่ำ ในระดับราคาน่าสนใจ คุณก็จะได้พบกับ "สายกลาง" แห่งคุณภาพสูงสุดเท่าที่เงินประหยัดของคุณจะซื้อหาและครอบครองได้
   
     ด้วยสนนราคา 2,390,000 บาท ที่ไม่ต้องกำเป็นเงิน บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้รองรับคุณผู้สนใจด้วยแคมเปญสุดพิเศษ ด้วยเงินดาวน์ต่ำเพียง 20-25% พร้อมการผ่อนระยะยาวจนคุณพอใจถึง 40 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.90, 3.10 และ 3.90% ตามลำดับการเลือกผ่อนชำระ เพื่อให้คุณได้มีสิทธิเป็นเจ้าของ MX-5 ผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ "สปอร์ตพันธุ์แท้" ที่ง่ายดายไม่ต้องไขว่คว้าใดๆ เพื่อให้ได้มา...
   
     ตอนนี้หากหัวใจสั่นไหวกับ All New MX-5 คุณจะสามารถพบ "อาชาแห่งพลธนู" ตัวเป็นๆ ได้ที่ Mazda City 0-2633-8500 & Mazda Summit 0-2722-7000-5 เพียง 2 ดีลเลอร์ จะพร้อมจะคุยกับคุณเรื่อง "รถสปอร์ตที่ดี...ต้องมีศูนย์กลางแห่งพลัง"
   
     ถึงตอนนี้ "แนวรบด้านรถสปอร์ต" ต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง และผู้ที่ต้อง "ร้อนอาสน์" ก็คงไม่พ้น Mini Cooper Convert และ Peugeot 306 CC ที่อาจลำบากขึ้นเพื่อดำรงอยู่ใน "สายกลาง" เพื่อให้คุณได้สัมผัส
   
     เมื่อระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา คงได้พิสูจน์ "พลธนู" ที่คงไว้ซึ่งความแม่นยำตาม "ปรัชญาโรดสเตอร์" ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากความเป็น ...ศูนย์กลางแห่งความเป็นรถสปอร์ตพันธุ์แท้...ดุจอาชาแห่งพลธนู "Jinba - Ittai"