ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการเลือกซื้อรถ มือสอง  (อ่าน 4012 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ akeidea

  • สมาชิกที่ส่งหลักฐานแล้ว
  • MIATA Level 4
  • *
  • กระทู้: 337
  • Gift : 6
  • เพศ: ชาย
วิธีการเลือกซื้อรถ มือสอง
« เมื่อ: มิถุนายน 21, 2010, 08:16:24 PM »
รถยนต์มือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อ รถ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้แต่เนื่องจาก การ ซื้อรถมือสอง มีความเสี่ยงที่สูงว่าจะได้รถที่ดีจริงตามที่โฆษณาหรือไม่นั้น ทำให้หลายคนยอมที่จะซื้อรถป้ายแดงเพื่อ ความสบายใจ วันนี้ ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง อย่างง่ายๆ เผื่อเวลาเพื่อนๆไปดูรถ จะได้พอจะ ดูได้ว่ารถคันนี้ดีจริงหรือไม่ครับ

          เริ่มแรก ในการซื้อรถ ผู้ซื้อรถ ควรจะกำหนดงบประมาณ และ รุ่นที่ตนเองต้องการไว้ก่อน จากนั้นเมื่อได้รุ่นที่ตนเองต้องการแล้ว ให้ไปดูรถที่เต็นท์รถก่อน ตรงนี้ผมไม่ได้แนะนำให้ซื้อที่เต็นท์นะครับ แต่เต็นท์รถ จะเป็นแหล่งความรู้พื้นฐานที่ดีสำหรับผู้ซื้อรถครับ สิ่งที่ผมต้องการให้ดูคือ “ เครื่องยนต์ ” ครับ เพราะโดยพื้นฐานแล้ว ผู้ซื้อรถส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่า รถรุ่นไหน มีเครื่องยนต์รุ่นไหน ดังนั้นเวลาดูพยายามจำ เครื่องยนต์ ให้ได้ก่อนครับ เพื่อที่เวลาซื้อจริงๆ จะได้ไม่โดนรถที่เปลี่ยนเครื่องยนต์มา นอกจากนั้น ก็พยายามถามราคาและจำอุปกรณ์เสริมต่างๆด้วยก็ดีครับ ลองเปรียบเทียบสัก 2-3 คัน คุณก็จะได้ข้อมูลตรงส่วนนี้แล้วครับ

          ขั้นที่สอง เริ่มหารถที่ต้องการ โดยส่วนใหญ่แล้ว ราคารถบ้านจะถูกกว่ารถเต็นท์ แต่บางคันก็ไม่ใช่ เนื่องจาก ราคารถเต็นท์ มักจะอิงจากราคากลาง บวก กำไร แต่ราคารถบ้าน มักจะตั้งตามความต้องการของผู้ขาย ดังนั้นเวลาหารถ ให้พิจารณาราคาประกอบด้วยครับ พยายามหาจากหลายๆแหล่งเช่น จากเต็นท์รถ , หนังสือรถ หรือรถที่ประกาศขายตามเวบไซค์ต่างๆ   ถึงตรงนี้คุณจะได้รถที่เป็นตัวเลือกไว้แล้ว ครับ

          ขั้นที่สาม ไปดูรถ เวลาไปดูรถ ถ้าเป็นคุณผู้หญิงแนะนำว่าไม่ควรไปเพียงคนเดียวครับ และสถานที่ดูนั้น ควรจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยด้วยนะครับ ส่วนวิธีการดูรถแบบง่ายๆ ก็มีขั้นตอนดังนี้ครับ
1.    ดูเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เปรียบเทียบ กับข้อมูลที่คุณมีครับ ถ้าไม่ตรงกันก็ลองถามผู้ขายดู ถ้าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนก็ไม่ควรซื้อครับ

2.    รถบางคันก็จะติดเครื่องเสียงมาใหม่ และมักจะอ้างราคาเครื่องเสียง เพื่อเพิ่มราคารถ ตรงนี้ต้องพิจารณาให้เองว่า คุ้มหรือเปล่า เช่น ติดมา 1 แสน จะมาบวก 1 แสนก็เกินไปครับ

3.    ดูใต้ท้องรถครับ เช่น คัดซี มีการตัดต่อหรือเปล่า ยางหุ้มต่างๆ และรอยน้ำมันที่อาจจะรั่วหรือซึม ครับ ปกติ ใต้ท้องรถนี่อาจจะไม่ค่อยได้ดูกัน เพราะไม่สะดวก วิธีง่ายๆอีกอย่างคือ ดูสถานที่ที่รถจอดว่ามีรอยน้ำ หรือ น้ำมัน ที่พื้นหรือเปล่าครับ

4.  ดูว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุมาหรือไม่ วิธีดูก็ใช้หลักง่ายๆครับ คือ “ ดูที่ตะเข็บ ” ครับ รถที่ออกจากโรงงานรอยตะเข็บต่างๆจะดูเป็นระเบียบ แต่ถ้าชนมา และมีการซ่อม รอยตะเข็บจะดูไม่เรียบร้อย สามารถดูรูปประกอบได้ครับ




โดยบริเวณที่รถมักจะชนคือ
 
     

ด้านหน้า เปิดฝากระโปง หน้า แล้วดูรอยตะเข็บ ตามแนว ขอบรถด้านข้าง ตามลักษณะการชนคือ
     
1.    ชนมุม รอยตะเข็บที่มุม จะไม่เรียบร้อย


2.     ชนตรงๆ รอยตะเข็บที่มุมทั้ง 2 ฝั่ง จะไม่เรียบร้อย

3.    ชนด้านข้าง ให้ดูรอยตะเข็บด้านข้าง จะไม่เรียบร้อย


4.     ถ้าชนหนักจนยุบมาถึงห้องเครื่อง ให้ดูรอยตะเข็บตามรูป จะไม่เรียบร้อย


5.     ถ้าชนไม่แรง ให้สังเกตุกันชน จะไม่พอดีการโครงรถ เช่น มีช่องว่างเกิดขึ้น


    

ด้านหลัง เปิดกระโปงหลัง และเปิดผ้าคลุมขึ้น แล้วดูรอยตะเข็บที่เรียกว่า “ รอยแปรงปัด ” วิธีการดูการ เหมือนกับด้านหน้า ทุกอย่าง แต่ถ้าชนหนัก ให้ดูที่รอยแปรงปัด ครับจะไม่เป็นระเบียบ



ด้าน ข้าง ทั้ง 2 ฝั่ง เปิดประตูออก ให้หมด แล้วดูความเรียบร้อยของโครงสร้างครับ
     
     

โดยปกติจะดู ยากครับ เพราะจะไม่มีรอยตะเข็บให้ดู ถ้าไม่แรงมาก ความเสียหายมักจะไม่ถึงตัวโครงรถ จะเสียหายเพียงประตู สำหรับความคิดของผม ถือว่า ไม่เป็นเรื่องใหญ่ครับ แต่ถ้าต้องการดูก็ลองดูรอยตะเข็บบริเวณขอบประตูและตัวบานพับครับ




หลังคา (เกิดจากการพลิกคว่ำ) เปิดประตูออก แล้วดูรอยตะเข็บ บริเวณ คานหน้ารถ เพราะปกติ ถ้ารถพลิกคว่ำแล้ว มักจะยุบบริเวณคานหน้ารถ



5.     ทดลองขับครับ ส่วนที่ต้องดูคือ
     
1.    ลองขับแล้วปล่อยพวงมาลัยดูว่ามีการกิน ซ้าย หรือ ขวา หรือเปล่า ถ้ามีลองเข้าศูนย์ ตรวจสอบดู เพราะอาจจะเกิดการชนแล้วทำให้ศูนย์เสียได้
2.    ดูว่าเครื่องมีปัญหาหรือเปล่า หลัก ง่ายๆ คือ ไม่ควรสั่น , เดินเรียบ และควันที่ออก ไม่ควรดำ (สำหรับรถดีเซล) หรือ ขาว (สำหรับรถเบนซิล)
3.    สังเกตเกียร์ ถ้าเกียร์ Auto เวลาเปลี่ยนมีการกระตุก หรือเปล่า ส่วนเกียร์ ธรรมดา ให้ลองว่า เข้าเกียร์ยากหรือเปล่า
4.    สังเกตระบบปรับอากาศว่า ใช้งานได้ดีหรือเปล่า
5.    ระบบไฟต่างๆ เช่น ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟหน้า ไฟหลัง และไฟในห้องโดยสาร
6.    เบาะนั่งทุกตัว โยก หรือเปล่า
7.    เข็มขัดนิรภัย ยังใช้ได้หรือเปล่า โดยการดึงแรงๆ ถ้าดึงแล้วติด ถือว่าใช้ได้

 ขั้นสุดท้ายจ่าย เงิน โอนรถ ไม่ควรใช้วิธีโอนลอย คือ จ่ายเงิน แล้วก็จบ ไม่ไปโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ สละเวลาเพียงครึ่งวัน หรือให้บริษัทที่รับโอนแทน จัดการ เพื่อความถูกต้องและไม่เกิดปัญหาทีหลังครับ

 จบแล้วครับ สำหรับการเลือกซื้อรถมือสองแบบง่ายๆ หวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อยนะครับ
 Credit : cars2hand.com

ออฟไลน์ NA_Devil

  • สมาชิกที่ส่งหลักฐานแล้ว
  • MIATA Level 5
  • *
  • กระทู้: 1097
  • Gift : 14
  • เพศ: ชาย
  • www.nasshops.net , www.nasshops.com
Re: วิธีการเลือกซื้อรถ มือสอง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2010, 07:47:36 AM »
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล + รูปประกอบ ละเอียดมากมาย เป็นประโยชน์ใช้ได้จริงเลยคับ   :emo59:

"จำหน่ายอุปกรณ์ รับออกแบบ ติดตั้ง ระบบ Network, Network Storage www.nasshops.net"