หัวข้อ: Na8c with 4 Throttles (IRTB)กราฟแรงม้ามาแล้วครับ

[mazdalover]

อุ๋ยส์ ... จะมี Drag War อีกแล้วหรือ ... คราวที่แล้วได้อาจารย์ดี(คุณ rooster) ลงครั้งแรกก็ได้แชมป์เลย  

แต่คราวนี้ผมไม่ลงนะ ... เลิกลาวงการแบบเป็นแชมป์ตลอดกาลดีก่า 



มีความสุขทั้งคนทั้งรถครับ  

[mad_monkey]

Automobil วางแผงแล้ว มีคันนี้ด้วย. สวยๆๆครบ

จัดแข่ง แดร็ก เลย จัดรุ่นopen เครื่อง NA.ด้วย เลยครับ เริ่มมีเยอะแล้วครับ

[Rooster NR-A]

ขอบคุณที่แจ้งครับ ไปซื้อมาอ่านเรียบร้อยครับ     

[Rooster NR-A]

หลังจากใช้มาระยะนึง ประมาณ 3 ถังน้ำมัน พอจะสรุปอาการรถได้ระดับนึงครับ

1.การออกตัวและอัตราเร่ง
 - การออกตัวทำได้ไม่ยากนัก ที่บางท่านอาจจะบอกว่าต้องออกตัวรอบสูง เรื่องนี้จริงครับ แต่ที่รอบไม่สูงกว่าเก่านัก โดยทั่วไปแล้วเครื่องธรรมดา เราจะออกตัวโดยที่มีรอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1200 รอบ/นาที แต่เจ้า 4ลิ้นนี่ จะต้องออกที่ประมาณ 1500 รอบ/นาทีเพื่อให้รถออกตัวได้ ถามว่าต่ำกว่านี้ได้มั้ย เครื่องจะเบาและอาจจะดับได้ เหมือนอาการไม่มีแรง เครื่องเขกแกร๊กๆๆเลยครับ ยิ่งถ้าตอนกำลังกลับรถด้วยนี่แนะนำให้เร่งไว้ที่ 1800รอบเลยครับ เพราะพวงมาลัยถูกหักจนสุด ปกติก็จะฉุดกำลังเครื่องอยู่แล้ว ไม่งั้นอาจทำให้เครื่องดับระหว่างเลี้ยวได้ แต่ถ้ามีโอกาสใช้บ่อยๆก็น่าจะจับจังหวะได้ดีกว่านี้ครับ
 - อัตราเร่งนี่ถ้าหลังจากประมาณ 3พันรอบไปแล้วสามารถเรียกกำลังเครื่องได้ยาวไปถึง 7800 รอบได้สบายๆ ไม่มีอาการอิดออดให้เห็น ตามที่จูนเนอร์เคยบอกว่าตั้งตัดไว้ที่ 8200รอบนั้น บอกตรงๆเลยว่าไม่กล้าครับ กลัวพังครับ อาการเครื่องระหว่างกดเร่งนั้น เสียงการดูดลมจะดังขึ้นเรื่อยๆตามรอบเครื่อง ดังมากครับ เครื่องจะดึงเรื่อยๆคล้ายกับไม่รู้จักหมด เหมือนมีกำลังสำรองรอเจ้าของเรียกอยู่ตลอดเวลา ไม่ดึงเหมือนเทอร์โบแต่รอบกวาดขึ้นเร็วมาก ความเร็วตั้งแต่ 120กม.ถึง180กม.ต่อชั่วโมงที่ระหว่างเกียร์ 3-4นั้น กวาดขึ้นเร็วมาก ไม่แตกต่างกับช่วง 0-100กม/ชม เท่าไหร่เลย ซึ่งปกติแล้วมักจะเป็นจุดอ่อนของเครื่องที่เล็กซีซีน้อยที่เวลาที่ความเร็ว 140 ขึ้นไปนี่จะเริ่มอืดขึ้นช้า แต่กับเครื่องตัวนี้ผมกลับรู้สึกมันสม่ำเสมอดีจริง ทั้งนี้สรุปเอาจากความรู้สึกนะครับ อาจจะไม่ 100% ถ้าเทียบกับเครื่องมือวัด

2.อัตราสิ้นเปลือง
 - แน่นอนครับ ความแรงกับความประหยัดมักจะสวนทางกันตลอด ถังแรกใช้โซฮอลล์95 ได้ 5.8กม/ลิตร ยอมรับว่าตกใจมากครับ นี่มันกินกว่าImprezaผมที่มีแรงม้า 280แรงซะอีก แต่ก็คิดว่าถังแรกเราอาจจะเหยี่ยบมากไปหน่อยมั้ง พอถัง2ใช้ v-power sohol 95 ครับ ไม่รู้สึกว่ามันจะแรงขึ้นตามที่โฆษณาเลย นอกจากเสียตังค์เพิ่มอีกลิตรละเกือบ 3 บ.ถังนี้เหยียบบ้างเป็นบางครั้งวิ่งในเมือง ผลออกมาได้ประมาณ 7.2กม/ลิตร ค่อยโล่งอกหน่อย มาถังที่3 เติมsohal95 วิ่งมอเตอร์เวย์บางในเมืองสลับไปมา ถังนี้ได้ 7.6กม/ลิตร เฉลี่ยแล้วก็ 6.8กม/ลิตรครับ กินน้ำมันมากกว่าเดิมที่ประมาณ 7.3 ไม่เท่าไหร่ พอรับได้ครับสำหรับรถที่ใช้วิ่งแค่สัปดาห์ละครั้ง
 - ความสิ้นเปลืองน่าจะปรับให้ประหยัดได้ขึ้นอยู่กับถ้าเราจับจังหวะการออกตัว การเร่งกับความสัมพันธ์ของรอบเครื่องได้ น่าจะขับแบบประหยัดได้พอควร ด้วยแรงที่มีมากขึ้น การเร่งความเร็วไม่จำเป็นต้องเค้นรอบสูงๆก็น่าจะทำให้มีอัตราบริโภคดีขึ้นแน่

รอบนี้ขอรายงานเท่านี้ก่อนครับ ไว้จะมารายงานเพิ่มอีก

[cabriolet]

"บอกตรงๆว่า ไม่กล้ากด กลัวพัง"  ไว้เอามาให้ผม กด ดิครับ  บอกตรงๆว่ากล้าครับ  ไม่กลัวเครื่องพัง เพราะ เป็นรถคุณจุ๊บ  ม่ายช่ายรถผม  55555  รถผมเองผมขับไม่เกิน 120  คร้าบบบ

[Beer Nattawut]

"บอกตรงๆว่า ไม่กล้ากด กลัวพัง"  ไว้เอามาให้ผม กด ดิครับ  บอกตรงๆว่ากล้าครับ  ไม่กลัวเครื่องพัง เพราะ เป็นรถคุณจุ๊บ  ม่ายช่ายรถผม  55555  รถผมเองผมขับไม่เกิน 120  คร้าบบบ

แหม !!! 120 เนี่ยนะ

[NA_Devil]

พี่แอคลืมบอกหน่วยรึเปล่าครับ 120 ไมล์/ชม.  นะคับ

ไม่ใช่กม./ชม.   

[mazdalover]

พี่ cabriolet เค้าพูดความจริงว่าขับไม่เกิน 120 กม./ชม ครับ ... ฟันธง confirmed 

แต่ความเร็วที่ว่าน่ะ มันเป็นความเร็วตอนเข้าโค้งนะ ไม่ใช่ทางตรง 

ไม่งั้นจะไปพิศวาสกองยางได้ไง ... จริงม่ะ 


มีความสุขทั้งคนทั้งรถครับ  

ลป. รถคุณ rooster แรงขนาดนั้นยังกินแค่ 7 โล/ลิตร เนี่ย ผมว่ามันประหยัดนะ 

[nick_oversize]

หลังจากใช้มาระยะนึง ประมาณ 3 ถังน้ำมัน พอจะสรุปอาการรถได้ระดับนึงครับ

1.การออกตัวและอัตราเร่ง
 - การออกตัวทำได้ไม่ยากนัก ที่บางท่านอาจจะบอกว่าต้องออกตัวรอบสูง เรื่องนี้จริงครับ แต่ที่รอบไม่สูงกว่าเก่านัก โดยทั่วไปแล้วเครื่องธรรมดา เราจะออกตัวโดยที่มีรอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1200 รอบ/นาที แต่เจ้า 4ลิ้นนี่ จะต้องออกที่ประมาณ 1500 รอบ/นาทีเพื่อให้รถออกตัวได้ ถามว่าต่ำกว่านี้ได้มั้ย เครื่องจะเบาและอาจจะดับได้ เหมือนอาการไม่มีแรง เครื่องเขกแกร๊กๆๆเลยครับ ยิ่งถ้าตอนกำลังกลับรถด้วยนี่แนะนำให้เร่งไว้ที่ 1800รอบเลยครับ เพราะพวงมาลัยถูกหักจนสุด ปกติก็จะฉุดกำลังเครื่องอยู่แล้ว ไม่งั้นอาจทำให้เครื่องดับระหว่างเลี้ยวได้ แต่ถ้ามีโอกาสใช้บ่อยๆก็น่าจะจับจังหวะได้ดีกว่านี้ครับ
 - อัตราเร่งนี่ถ้าหลังจากประมาณ 3พันรอบไปแล้วสามารถเรียกกำลังเครื่องได้ยาวไปถึง 7800 รอบได้สบายๆ ไม่มีอาการอิดออดให้เห็น ตามที่จูนเนอร์เคยบอกว่าตั้งตัดไว้ที่ 8200รอบนั้น บอกตรงๆเลยว่าไม่กล้าครับ กลัวพังครับ อาการเครื่องระหว่างกดเร่งนั้น เสียงการดูดลมจะดังขึ้นเรื่อยๆตามรอบเครื่อง ดังมากครับ เครื่องจะดึงเรื่อยๆคล้ายกับไม่รู้จักหมด เหมือนมีกำลังสำรองรอเจ้าของเรียกอยู่ตลอดเวลา ไม่ดึงเหมือนเทอร์โบแต่รอบกวาดขึ้นเร็วมาก ความเร็วตั้งแต่ 120กม.ถึง180กม.ต่อชั่วโมงที่ระหว่างเกียร์ 3-4นั้น กวาดขึ้นเร็วมาก ไม่แตกต่างกับช่วง 0-100กม/ชม เท่าไหร่เลย ซึ่งปกติแล้วมักจะเป็นจุดอ่อนของเครื่องที่เล็กซีซีน้อยที่เวลาที่ความเร็ว 140 ขึ้นไปนี่จะเริ่มอืดขึ้นช้า แต่กับเครื่องตัวนี้ผมกลับรู้สึกมันสม่ำเสมอดีจริง ทั้งนี้สรุปเอาจากความรู้สึกนะครับ อาจจะไม่ 100% ถ้าเทียบกับเครื่องมือวัด

2.อัตราสิ้นเปลือง
 - แน่นอนครับ ความแรงกับความประหยัดมักจะสวนทางกันตลอด ถังแรกใช้โซฮอลล์95 ได้ 5.8กม/ลิตร ยอมรับว่าตกใจมากครับ นี่มันกินกว่าImprezaผมที่มีแรงม้า 280แรงซะอีก แต่ก็คิดว่าถังแรกเราอาจจะเหยี่ยบมากไปหน่อยมั้ง พอถัง2ใช้ v-power sohol 95 ครับ ไม่รู้สึกว่ามันจะแรงขึ้นตามที่โฆษณาเลย นอกจากเสียตังค์เพิ่มอีกลิตรละเกือบ 3 บ.ถังนี้เหยียบบ้างเป็นบางครั้งวิ่งในเมือง ผลออกมาได้ประมาณ 7.2กม/ลิตร ค่อยโล่งอกหน่อย มาถังที่3 เติมsohal95 วิ่งมอเตอร์เวย์บางในเมืองสลับไปมา ถังนี้ได้ 7.6กม/ลิตร เฉลี่ยแล้วก็ 6.8กม/ลิตรครับ กินน้ำมันมากกว่าเดิมที่ประมาณ 7.3 ไม่เท่าไหร่ พอรับได้ครับสำหรับรถที่ใช้วิ่งแค่สัปดาห์ละครั้ง
 - ความสิ้นเปลืองน่าจะปรับให้ประหยัดได้ขึ้นอยู่กับถ้าเราจับจังหวะการออกตัว การเร่งกับความสัมพันธ์ของรอบเครื่องได้ น่าจะขับแบบประหยัดได้พอควร ด้วยแรงที่มีมากขึ้น การเร่งความเร็วไม่จำเป็นต้องเค้นรอบสูงๆก็น่าจะทำให้มีอัตราบริโภคดีขึ้นแน่

รอบนี้ขอรายงานเท่านี้ก่อนครับ ไว้จะมารายงานเพิ่มอีก

อยากเห็นรถคุณrooster จังครับ

[Jufe]

มาอับเดทล่าสุดนิดนึงครับ คลิ๊กที่รูปนะครับ

หลังจากได้รับลิมิเต็ด 1.5 Way มาจากคุณ Rooster ก็ได้นัดวันกันเพื่อทำการชำแหละทันที







ก่อนอื่นต้องยกลงมาก่อนนะครับ ของเดิมเป็นแบบ Torsen ที่เคยเปลี่ยนไปเกือบปีมาแล้ว ซึ่งอาจจะจับไม่หนักเหมือนกับแบบคลัทช์ แต่ได้ความนิ่มนวล




รูปใกล้ๆครับ
แยกชิ้นออกซะ



หลังจากนั้นก็เอาตัวที่ได้จากคุณ Bad Monkey มาพิจารณาดู

[Jufe]

นี่ไงครับ แบบคลัทช์ สภาพที่ได้มา ยอมรับว่าสวยครับ ผ้าคลัทช์ด้านในแทบไม่สึกเลย



และเราจะทำการสลับไส้ในนะครับ



วางใกล้ๆกันไว้

ปรากฎว่า สถาพดีจริงๆครับหลังจากใส่แล้ว ทดลองวิ่งดู ผมว่ามันส์นะครับ แต่อย่างไรก็ดี อาการเลี้ยวแคบๆยากกว่าเดิม คงต้องค่อยๆปรับตัวไปนะครับ รายงานการใช้งานจริง คงต้องรอเจ้าของมาเล่าเองนะครับ
ปล.ชลป. แปลว่าช่างลืมไป เอ้อ ...ผมว่ามันเป็น 2 way มากกว่านะครับ ดูจากองศาของตัวสี่เหลี่ยมที่ทำหน้าที่กดแผ่นคลัทช์น่ะครับ แต่ถ้าถามว่าเป็น MXZ หรือ RZ ไม่รู้จริงๆครับ

[mad_monkey]

ใส่แล้วมันส์จริงๆๆ  เลี้ยงซอยใหนใครก็มองใช่มั้ยครับ

[Rooster NR-A]

ขอบคุณคุณจุ๊ฟที่เอารูปมาลงให้นะครับ

ตอนนี้กำลังเห่อ LSD อยู่เลยครับ แต่ยังไม่ได้วิ่งมาก ลองเข้าโค้งเร็วๆ ความรู้สึกล้อมันดูดติดพื้นถนนดีจัง แต่ยังไม่กล้าเข้าแรงๆกลัวจะเหวอ ว่าจะหาลานกว้างๆปลอดภัยหน่อย จะลองทำโดนัท แล้วจะลองเร่งแรงๆแล้วถอนคันเร่งกระทันหันดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะถ้าเป็น 2 way จริงมันจะล็อกทั้งตอนเร่งและตอนถอนคันเร่งด้วย ส่วนวิ่งที่แคบๆนี่ เสียงยังกับใครโดนหักกระดูกอะครับ ดังกร๊อบๆ รถสั่นสะท้านทั้งคัน บางคนที่ใส่รับไม่ได้ก็ต้องรีบถอดออก แต่ผมชอบ มันขืนๆดี ทำให้คนข้างนอกรถรู้สึกถึงความไม่ทำมะดาของมัน (ซาดิสมั้ยครับ) วันก่อนเลี้ยวเข้าซอย LSD ทำการล็อกเสียงดังลั่นจนคนที่นั่งหลังรถกะบะที่รอเลี้ยวหันมามองกันหมด คงนึกว่าไอ้นี่ขับรถเหยียบขวดกระทิงแดงแตกแน่เลย  
ปัญหาอีกอย่างคือ อัตราการสึกหรอของยางน่าจะเยอะอยู่พอสมควรเลย เวลาเลี้ยวทีเห็นพื้นเป็นรอยล้อเต็มไปหมด นี่ถ้าเลี้ยวเข้าห้างเสียงคงดังจนคนตกใจว่ามีชิ้นส่วนของรถคงพังแน่เลย  

เอ้อ..เค้าชื่อ Mad Monkey ครับ ไม่ใช่ Bad Monkey  

ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ

[mazdalover]

อ่านแล้วอยากไปฟังเสียงกรอด ๆ ที่ว่าจังเลย ... แต่อย่ามาวิ่งใกล้ผมนะ ผมขี้ตกใจ 

วันก่อนขับรถอยู่ดี ๆ โดน BB มาเบ้ินคันเร่งใส่ข้างประตูรถฝั่งคนขับ ทำเอาสะดุ้งโหยงเสียฟอร์มมากมาย 


มีความสุขทั้งคนทั้งรถครับ 

[b4_miata]

อย่างนี้ต้องหาเวลาว่างๆไปวิ่งเล่น track day สักวันนะคับพี่จะได้ลองรถไปในตัว อิอิ..

ขอบคุณคุณจุ๊ฟที่เอารูปมาลงให้นะครับ

ตอนนี้กำลังเห่อ LSD อยู่เลยครับ แต่ยังไม่ได้วิ่งมาก ลองเข้าโค้งเร็วๆ ความรู้สึกล้อมันดูดติดพื้นถนนดีจัง แต่ยังไม่กล้าเข้าแรงๆกลัวจะเหวอ ว่าจะหาลานกว้างๆปลอดภัยหน่อย จะลองทำโดนัท แล้วจะลองเร่งแรงๆแล้วถอนคันเร่งกระทันหันดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะถ้าเป็น 2 way จริงมันจะล็อกทั้งตอนเร่งและตอนถอนคันเร่งด้วย ส่วนวิ่งที่แคบๆนี่ เสียงยังกับใครโดนหักกระดูกอะครับ ดังกร๊อบๆ รถสั่นสะท้านทั้งคัน บางคนที่ใส่รับไม่ได้ก็ต้องรีบถอดออก แต่ผมชอบ มันขืนๆดี ทำให้คนข้างนอกรถรู้สึกถึงความไม่ทำมะดาของมัน (ซาดิสมั้ยครับ) วันก่อนเลี้ยวเข้าซอย LSD ทำการล็อกเสียงดังลั่นจนคนที่นั่งหลังรถกะบะที่รอเลี้ยวหันมามองกันหมด คงนึกว่าไอ้นี่ขับรถเหยียบขวดกระทิงแดงแตกแน่เลย   
ปัญหาอีกอย่างคือ อัตราการสึกหรอของยางน่าจะเยอะอยู่พอสมควรเลย เวลาเลี้ยวทีเห็นพื้นเป็นรอยล้อเต็มไปหมด นี่ถ้าเลี้ยวเข้าห้างเสียงคงดังจนคนตกใจว่ามีชิ้นส่วนของรถคงพังแน่เลย 

เอ้อ..เค้าชื่อ Mad Monkey ครับ ไม่ใช่ Bad Monkey   

ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ